นายรักเกียรติ สุขธนะ

อดีตรมต. 5 สมัย และ ส.ส.อุดรธานี 7 สมัย ถูกตัดสินจำคุกคดีทุจริตยา

หลังจากพ้นคุกได้บวชและเข้าถึงหลักธรรม ได้เทศนาธรรมในงานสมัชชาคุณธรรมแห่งชาติ ครั้งที่ 5 ที่อิมแพค เมืองทองธานี 2554 ในหัวข้อ

“ประเทศไทยหมดหนทางแก้ไขคอร์รัปชั่นแล้วจริงหรือ”

กล่าวถึงช่วงที่ดำรงตำแหน่งรมต. โดยยอมรับว่า ได้ใช้ชีวิตด้วยความประมาท และถูกครอบงำด้วยอบายมุข มีกิเลส หลงใหลในลาภยศ อำนาจ วาสนา

เมื่อ “อำนาจ” บังตา จึงเกิดความอยาก ความต้องการ ทั้งอยากกิน อยากมี อยากได้แบบไม่รู้จบ ถือได้ว่า ทำทุกอย่างตามที่ตนเองต้องการ เพื่อตอบสนองกิเลส

ขณะที่การเข้าสู่ตำแหน่งทางการเมืองด้วยวิธีการเลือกตั้งนั้น ทำให้เกิดการต่อสู้ แข่งขัน ชิงดีชิงเด่น ใช้เงินซื้อเสียง และโกงการเลือกตั้งหนักขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งเมื่อได้เข้าไปเป็นรัฐบาลบริหารประเทศ ก็ต้องหาทางทุจริตคอร์รัปชั่นเพื่อถอนทุนคืน

“การไปเลือกตั้งก็เหมือนกับการยกทัพไปรบ ที่ต้องมีการระดมทุน และได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มทุน โดยสมาชิกพรรครับเงินไปหาเสียง เมื่อได้รับชัยชนะ คือ การได้ปกครองประเทศ ใครแพ้ก็ไปเป็นฝ่ายค้าน”

ตนได้ผ่านการใช้ชีวิตมาถึง 3 แบบ คือ

นักปกครอง นักโทษ และนักบวช

ได้พบว่า “วงจรอุบาทว์ของนักการเมืองไทย” คือ การเข้ามาเป็นรัฐบาลโดยการเลือกตั้ง แล้วเข้ามาถอนทุนคืน 3 ทางด้วยกัน คือ

1.ถอนทุนคืนตัวเอง

2.ถอนทุนคืนนายทุนที่สนับสนุนให้เข้ามาเป็นรัฐบาล

3.ถอนทุนคืนเพื่อทำทุนในสมัยหน้า เป็นการสืบทอด รักษาอำนาจไว้ให้ต่อเนื่อง ดังนั้น การเมืองไทยจะอยู่ควบคู่กับการทุจริต

อีกวงจรอุบาทว์หนึ่งของการเมืองไทย คือ

เมื่อมีการทุจริตคอร์รัปชั่นมากๆ ก็เกิดการปฏิวัติ รัฐประหาร เช่น การปฏิวัติเมื่อปี พ.ศ. 2534 และปี พ.ศ. 2549 ที่มีเหตุผลการปฏิวัติเป็นสูตรสำเร็จว่า เพราะนักการเมืองทุจริต รัฐบาลคอร์รัปชั่น

แต่ไม่เคยจับผู้ที่ทำผิด หรือทุจริตคอร์รัปชั่นได้เลย และไม่เคยมีนักการเมืองติดคุก

นายรักเกียรติ กล่าวถึงรัฐบาลชุดที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี ว่า

เข้าสู่การเป็นรัฐบาลโดยการนับมือ ส.ส. ที่เปลี่ยนขั้วมายกมือให้ตนเอง เป็นการซื้อ ส.ส. มาสนับสนุน ดังนั้น เมื่อเข้ามาบริหารประเทศก็ต้องทำตามกลุ่ม ส.ส. ที่มาสนับสนุนต้องการ

2 ปีที่ผ่านมา จึงเป็น 2 ปีที่เต็มไปด้วยการทุจริตคอร์รัปชั่น เพื่อตอบแทนกลุ่มทุนที่ให้เงินมาซื้อ ส.ส.

การทุจริตคอร์รัปชั่นจึงอยู่คู่กับสังคมการเมืองไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และอาจกล่าวได้ว่า เราพัฒนาประเทศไปได้อย่างรวดเร็ว แต่ไม่มีการพัฒนาการเมืองไปพร้อมๆ กัน

ส่วนการแก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่น เนื่องจากเป็นปัญหาที่ใหญ่และสำคัญ จึงควรแก้ปัญหาโดย

“การปฏิรูปประเทศไทย หรือสังคายนาประเทศไทย”

เพราะการเข้าสู่อำนาจทางการเมือง ของนักการเมืองหรือข้าราชการประจำ ล้วนเป็นสาเหตุของการทุจริตคอร์รัปชั่น มีการซื้อเงินเพื่อเข้าสู่ตำแหน่ง และถอนทุนคืน วงจรของนักการเมืองและข้าราชการเช่นนี้ เป็นวงจรที่เรียกว่า “งูกินหาง”

โครงสร้างการทุจิตคอร์รัปชั่นมี องค์ประกอบ 3 ฝ่าย

พ่อค้า ที่เป็นฝ่ายเสนอ

นักการเมือง ที่เป็นฝ่ายสนอง

และข้าราชการ ที่เป็นฝ่าย ดำเนินการ
…………..

ขอบคุณเจ้าของภาพ
ขอบคุณสำนักข่าวอิศรา

Join The Discussion

Compare listings

Compare