เราก็ไม่ทราบได้ว่า เราจะตายในวันใด

เพราะสัตว์ตายเกลื่อนกันทั่วโลกทั่วสงสารทุกวันไม่ได้เว้น ไม่ว่าสัตว์ไม่ว่าบุคคล โลกนี้เป็นโลกเกิดตาย เราจึงไม่ควรประมาทว่าจะไม่มาถึงตัวของเรา ต้องวันหนึ่งแน่นอน เมื่อเราทราบอย่างนี้ก็ให้พึงระลึกถึงความตายมรณานุสติเข้าสู่ใจของเราเสมอ ความฟุ้งเฟ้อเห่อเหิม ความคึกความคะนองที่ยินดีในการทำบาปทำกรรมทั้งหลายก็จะลดน้อยลง แล้วสร้างความดีขึ้นแทนกัน ก็จะเป็นสิริมงคลแก่จิตใจของเรา

เพราะใจนี้เป็นธรรมชาติที่ไม่ตายตั้งแต่กาลไหน ๆ มา การเกิดตาย ๆ คือการเปลี่ยนภพเปลี่ยนชาติ เปลี่ยนสถานที่อยู่ เปลี่ยนวิบากกรรมของเราเองซึ่งเป็นผู้ทำมา ไม่ใช่ตายแล้วสูญไปหายเงียบไป ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้วโลกก็น่าจะสบายกัน เพราะไม่มีความเป็นห่วงเป็นใยอะไรในภพชาติของตนทั้งก่อนทั้งหลัง ตายแล้วก็หายเงียบไป ๆ ด้วยกันหมด โลกนี้ก็กลายเป็นโลกที่สูญเปล่าจากสัตว์จากบุคคล จากความทุกข์ความทรมาน แต่นี้ไม่เป็นเช่นนั้น เวลาตายแล้วมันต้องพาให้ไปเกิดจนได้ ร้อยทั้งร้อย พันทั้งพัน หมื่นทั้งหมื่น แสนทั้งแสน ล้านทั้งล้าน ทุกดวงวิญญาณตายแล้วเกิด ๆ ทั้งนั้น นี้ตามหลักธรรมของพระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้แล้วอย่างตายตัว เราจึงไม่ควรประมาทในความเกิดความตายของเราว่าจะไม่กระทบกระเทือนเราอยู่เรื่อยไป ดังที่เป็นมาแล้วและกำลังเป็นอยู่เวลานี้

ชาตินี้เราก็ทราบแล้วว่าเราเกิดมาเป็นมนุษย์ มิหนำซ้ำได้พบพระพุทธศาสนาซึ่งเป็นของเลิศเลอ ธรรมชาติเลิศเลอมาก หายากมากที่จะได้พบได้เห็น แม้แต่คนไทยเราเกิดมาพบพระพุทธศาสนายังไม่มีความสนใจก็ยังมีอยู่มากมาย ปล่อยลมหายใจฝอด ๆ นี้ทิ้งไปเสียเปล่า ๆ ตายแล้วเหมือนซุงทั้งท่อนไม่มีความหมายอะไร จิตวิญญาณก็ไปเสวยกรรมตามอำนาจแห่งความชอบธรรมของตนไม่ลำเอียงต่อผู้ใด ซึ่งส่วนมากมีแต่ความชั่วช้าลามก พอตายลงไปแล้วความชั่วช้าลามกนี้กลับเป็นพิษเป็นภัย กลับเป็นเสนียดจัญไร เป็นศัตรูคู่เวรแก่ตัวของเราเอง ไปเกิดสถานที่ใดก็มีแต่ความทุกข์ความทรมานความยากความลำบาก ไม่ได้มีความเหมาะสมในสถานที่เกิดและที่อยู่นั้นเลย ก็เพราะกรรมแห่งความคะนองของเราที่ทำมา เพราะฉะนั้นจึงขอให้รู้เนื้อรู้ตัวเสียตั้งแต่บัดนี้”

หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดเทพศิรินทราวาส กรุงเทพมหานคร
วันที่ ๗ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๓๗

Join The Discussion

Compare listings

Compare