

ห้องเรียนปุ๋ยหมักแบบไม่พลิกกอง แม่โจ้
อีตาจารย์ลุงเรียนจบโยธา แล้วไปเรียนต่อวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม …… เคยสอนอยู่ที่คณะวิศวกรรมและอุตสาหกรรมเกษตร ม.แม่โจ้ จนเกษียณอายุ ……. วิชาที่สอนก็เป็นด้านวิศวกรรม ……. งานวิจัยส่วนใหญ่ก็เป็นด้านการทำปุ๋ยหมักแบบวิศวกรรมครับ คือเน้นต้องทำให้ได้ปุ๋ยหมักครั้งละมาก ๆ ……. ใครทำก็ต้องทำได้ ต้องได้ปุ๋ยหมักคุณภาพพรีเมียม ผ่านค่ามาตรฐานทุกครั้ง ……. ต้องง่าย …… ต้องไม่พลิกกอง ไม่เปลืองแรง …… ต้องไม่ใส่สารอะไรให้วุ่นวาย …… ต้องไม่มีกลิ่น ……. มีกำหนดเวลาแล้วเสร็จที่แน่นอน ……. มีขั้นตอนที่แน่นอน ใคร ๆ ก็สามารถทำตามได้ทีละบรรทัด …… ครู นักเรียน สาว ๆ ผู้สูงวัย เกษตรกร ชายหนุ่ม เซเลปหน้าตาดี ต้องทำได้ทุกคนครับ
ท่านใดที่ชอบปุ๋ยหมักมีกลิ่น ชอบใส่สารนู่น นี่ นั่น โน่น ชอบใส่น้ำหมัก น้ำจุลินทรีย์ ใส่กากน้ำตาล อีเอ็ม แกลบ รำ ดิน ชอบเหยียบกอง ชอบคลุมกอง ชอบทำในบ่อวง ถุง ถัง หรือทำในคอกทึบ ……. ก็แสดงว่ามาผิดกลุ่มแล้วครับ
ปุ๋ยหมักกลุ่มเราจะไม่มีกลิ่นตั้งแต่เริ่มทำจนเป็นปุ๋ย เพราะเน้นให้อากาศเข้ากองได้รอบ …….. กระบวนการย่อยสลายที่มีอากาศจะไม่สร้างกลิ่นครับ และไม่สร้างแก๊สโลกร้อน ไม่มีมีเทน ไม่มีแก๊สไข่เน่า
การทำให้ปุ๋ยหมักผ่านมาตรฐานปุ๋ยอินทรีย์ของประเทศ ไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่ใช่ว่าสูตรอื่นจะผ่านกันได้ง่าย ๆ ครับ ……. แต่ปุ๋ยหมัก อจล ผ่านฉลุย ฮิฮิ ……. เก่งน้อตะเอง
ใช้แค่เศษพืชและมูลสัตว์ ……. เหมือนจะง่าย ๆ ทำเล่น ๆ แต่มันได้จริง ๆ ครับ …… ขายเป็นอาชีพร่ำรวยก็หลายคนแล้ว
ขอเพียงตวงสัดส่วนเศษพืชและมูลสัตว์ตามขั้นตอนให้ดี ไม่ดื้อ ไม่ซน ไม่มั่ว ไม่กะ ……. ขอเพียงวางเศษพืชและมูลสัตว์ตามวิธีทำ ……. และขอเพียงดูแลน้ำกองปุ๋ยตามที่กำหนด ……. ครบ 2 เดือน ทุกอย่างจะเปื่อยเป็นปุ๋ย แล้วทำให้แห้ง ก่อนใช้ หรือเก็บ
มีแกลบ ขุยมะพร้าว กาบมะพร้าว กิ่งไม้ ขี้เลื่อย เปลือกไข่ เปลือกมังคุด เท่านั้น ที่ไม่เปื่อยในกองปุ๋ย อจล ครับ
เมื่อมีความชื้น มีอากาศในกองปุ๋ย น้องจุลที่มีในมูลสัตว์ก็จะตื่นออกมาหาอาหารกิน …… อาหารของน้องเค้าคือคาร์บอนและไนโตรเจนครับ …… ไม่ต้องไปเซเว่นเพื่อหาซื้อคาร์บอนและไนโตรเจนนะครับ ……. คาร์บอนมีในเศษพืชทุกชนิดแล้ว ทั้งแห้งและสด …… ไนโตรเจนก็มีในมูลสัตว์ทุกชนิด ทั้งแห้งและเปียก ……. เราก็เลยไม่ต้องเติมสารอะไรอีกแล้ว ……. ถ้าได้ตวงเศษพืชและมูลสัตว์ตามที่อีตาจารย์ลุงแกกำหนด น้องจุลก็จะได้สัดส่วนอาหารที่พอดี พอเหมาะ สามารถสร้างลูกหลานได้เร็ว เจริญเติบโตได้เร็ว ไปกลุ้มรุมกัดกินคาร์บอนในเศษพืช การย่อยสลายก็จะเกิดได้สมบูรณ์ครับ
ถ้าการย่อยสลายเกิดได้ไม่สมบูรณ์ เพียงเพราะเราขี้เกียจดูแลน้ำ 3 ขั้นตอน …… คาร์บอนก็จะเหลือเยอะในปุ๋ยหมัก …… ค่า C/N ratio ของปุ๋ยหมักหรือค่าคาร์บอนหารด้วยไนโตรเจนก็จะไม่ผ่านมาตรฐานครับ …… มาตรฐานไม่ให้เกิน 20 ครับ …… พอคาร์บอนเหลือเยอะ ค่านี้ก็จะเกิน …… ตกมาตรฐานเบย
เมื่อการย่อยสลายเกิดได้ไม่สมบูรณ์ ค่า N P K ก็จะลดลงด้วยครับ ตกมาตรฐานอีก …… ค่าการย่อยสลายสมบูรณ์หรือ GI ก็ไม่ผ่านอีก …… เฮ้อ
ถ้าทำใช้เอง ไม่ได้ขายให้ใคร จะขี้เกียจดูแลน้ำกองปุ๋ยก็ได้ครับ พืชก็ยังชอบอยู่ แต่ประสิทธิภาพการให้ผลผลิตของพืชก็จะลุ่ม ๆ ดอน ๆ หน่อยนะครับ …… เป็นไปตามยถากรรม ……. เหมือนกับการดูแลกองปุ๋ยไงครับ ฮิฮิ
เมื่อน้องจุลกัดกินคาร์บอนและไนโตรเจนอย่างมีความสุข น้องก็จะปล่อยพลังความสุขออกมาในรูปของความร้อนครับ …… ใครที่เคยทำปุ๋ยหมัก ก็จะสัมผัสความอุ่นหรือร้อนของกองปุ๋ยได้ครับ ……. กองใหญ่ก็จะร้อนมาก ….. วงตาข่ายก็จะร้อนรองลงมา …… ตะกร้าผ้า กะละมัง ก็จะอุ่นนิด ๆ …… เพราะความร้อนมันหายไปกับอากาศภายนอกได้เร็วครับ
สำหรับกองใหญ่ ที่ฐานกว้าง ๆ 1.5-2.5 ม. กองสูง 1.2-1.5 ม. จะมีเนื้อกองปุ๋ยที่มาก จะสะสมความร้อนได้มาก บางครั้งสูงถึง 70 องศาก็มี ซึ่งน้องเค้ายิ่งชอบครับ จะทำงานได้เร็วมาก ๆ …… อย่าไปเชื่อพ่อตา หรือเพื่อนบ้านนะครับ ที่ชอบกลัวว่าน้องจุลจะตายเพราะความร้อนในกองปุ๋ย แล้วชอบแนะให้ระบายความร้อน …… พวกเขาไม่รู้จักน้องจุลเสียล้าวววว …… น้องจุลกลุ่ม thermophiles ในกองปุ๋ยเค้าชอบความร้อนจัดจ้า กินเก่งมากเลย
กองปุ๋ยใหญ่แบบที่ 1 และ 2 จึงห้ามทำใต้ต้นไม้ครับ เพราะต้นไม้แสนรักจะตายได้ ควรห่าง 2 ม. …… แบบวงตาข่ายก็ควรห่าง 1.5 ม. …… แบบตะกร้าผ้า เข่ง วางใต้ต้นไม้ได้เลยครับ …… น้ำกองปุ๋ยที่ซึมออกมา จะมีธาตุอาหารที่พืชต้องการ ……. แล้วอย่าคิดนะงับ ว่าจะรดน้ำกองปุ๋ยเยอะ ๆ ให้น้ำออกมาแยะ ๆ เพราะการทำแบบนี้จะทำให้ปุ๋ยหมักจืดได้จ้า
พอน้องจุลกัดแทะคาร์บอนได้มาก ก็จะปลดปล่อยธาตุอาหารโบรอน โมลิบดินัม เหล็ก ทองแดง สังกะสี คลอรีน แมงกานีส นิกเกิ้ล แคลเซียม แมกนีเซียม ซัลเฟอร์ที่เคยมีในเศษพืช ….. ให้หล่นปุ๊ ตกลงมาอยู่ในปุ๋ยหมัก ……. การใช้ปุ๋ยหมัก อจล เมื่อไร พืชก็เลยจะกระดี๊กระด๊าออกนอกหน้าทุกครั้งจ้า
ทำกองปุ๋ยให้เยอะ ๆ นะครับ ทำให้พอใช้ ทยอยทำทุกเดือน เดือนละ 1-2 ตัน ปีหนึ่งก็ได้ 12-24 ตันแล้ว …… เหลือใช้ก็ทำดินปลูกขาย …… ดิน 4 ปุ๋ยหมัก 1 แกลบดิบหรือเปลือกถั่วลิสง 1 …… ร่ำรวย ๆ กันครับ
อ่านวิธีทำนะครับ แล้วลงมือทำตามทีละบรรทัด สงสัยอะไรก็ถามได้ครับ อย่าอาย อย่าเกรงใจ ……. เกษียณอายุแล้ว อีตาจารย์ลุงแกกลัวไม่มีใครเล่นด้วยอ่ะครับ ……. แกกลัวจะเสียชื่ออาจารย์ดีเด่นแห่งชาติปี 58 ด้วยมั้ง 555 ……. แกอยากเห็นสมาชิกมั่งคั่ง มั่นคง จากเศษพืชที่คนอื่นเผา จากเปลือกผลไม้ เศษอาหาร แทนที่จะลงขยะ ……. ร่ำรวยแล้วก็ไม่ต้องมาบอกกันก็ได้ …… ขาดทุนก็ยิ่งไม่ต้องมาบอก ฮิฮิ
#บรรทัดนี้ชอบม้ากกกกกกบรรทัดที่8
.
อ่านการทำปุ๋ยหมัก 5 แบบของจารย์ลุงนะครับ
1.การทำปุ๋ยหมักแบบกองใหญ่รูปสามเหลี่ยม ไม่พลิกกลับกอง เสร็จใน 2 เดือน
https://www.facebook.com/groups/836331036476777/permalink/1113294255447119
2.การทำปุ๋ยหมักแบบกองเล็กรูปสี่เหลี่ยม ไม่พลิกกลับกอง 2 เดือนเสร็จ
https://www.facebook.com/groups/836331036476777/permalink/863796210396926
3.การทำปุ๋ยหมักในตะกร้า เข่ง หรือวงตาข่าย ไม่ต้องพลิก 2 เดือนเสร็จ
https://www.facebook.com/groups/836331036476777/permalink/1114723298637548
4.การทำปุ๋ยหมักในกะละมัง พลิกวันละครั้ง เดือนเดียวเสร็จ
https://www.facebook.com/groups/836331036476777/permalink/1116126828497195
5.การทำปุ๋ยหมักแบบผสมระหว่างแบบที่ 3 และแบบที่ 4
https://www.facebook.com/groups/836331036476777/permalink/1156267924483085
อ่านการทำปุ๋ยหมักจากเศษผัก เศษอาหาร เศษผลไม้
https://www.facebook.com/groups/836331036476777/permalink/890378687738678
Join The Discussion