เธอมีอาชีพขายของกินที่ข้างถนนในนครฉงชิ่ง แม้ชีวิตจะเผชิญกับความโชคร้าย ความยากลำบาก สามีคนแรก”ค่าตัวตุย” ลูกคนโตเป็นโรคหัวใจตั้งแต่เกิดจำเป็นต้องผ่าตัดรักษาหลายครั้ง ปัจจุบันก็ยังคงรักษาอยู่
ต่อมาแต่งงานใหม่มีลูกอีกคนแต่ครอบครัวสามีใหม่รังเกียจลูกคนโตที่ป่วยของเธอ เธอทนแรงกดดันไม่ไหวจึงหอบลูกๆแยกออกมาใช้ชีวิตกันตามลำพัง
แต่ถึงอย่างนั้นแม่เลี้ยงเดี่ยวแซ่หลินผู้นี้ก็ยังคงยิ้มแย้มแจ่มใส ไม่ฟูมฟายโทษโชคชะตา มีจิตใจเอื้อเฟื้อต่อคนอื่นที่กำลังลำบาก ….. เรื่องราวของแม่เลี้ยงเดี่ยวแซ่หลินผู้นี้กำลังเป็นไวรัลในโซเชี่ยลมีเดียของจีน
.
ไวรัลนี้มีที่มาจาก ขณะแม่เลี้ยงเดี่ยวแซ่หลินกับลูกๆทั้งสองกำลังขายแผ่นเต้าหู้ทอด ฯลฯ ตามปกติ ก็มีอินฟลูเอนเซอร์ชาวจีนที่เป็นจิตรกรไปทำคอนเทนต์ มาขอใช้ภาพวาดแลกกับแผ่นเต้าหู้ทอดที่เธอขาย เธอก็ยอมด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ไม่มีท่าทีแสดงความรังเกียจหรือไม่พอใจ ….. แต่ตกใจนิดหน่อยในตอนแรกที่อินฟลูเอนฌซอร์บอกไม่มีเงินจ่าย 😅😅
(ก่อนหน้านั้นก็เคยมีคนขอกินก่อนแล้วจะมาจ่ายเป็นผลงานในวันรุ่งขึ้น ซึ่งคุณหลินก็ให้ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแบบที่เห็นในภาพตลอด คุณหลินบอกว่าเธอไม่ได้ซีเรียสเลยถึงจะไม่มีอะไรมาแลกเปลี่ยนก็ไม่เป็นไร เข้าใจดีว่าใครๆก็เผชิญความยากลำบากได้ทั้งนั้น ฯลฯ
….. เข้าใจว่าอินฟลูเอนเซอร์คนนี้ไปหาคุณหลินก็เพราะได้เห็นเธอจากคลิปอื่นๆก่อนหน้านี้)
.
ในระหว่างคุณหลินเตรียมของ ทั้งคู่ก็สนทนากันโดยคุณหลินขายของไปด้วยโอ๋ลูกคนเล็กที่กำลังแบกไว้ข้างหลังไปด้วย โดยมีลูกคนโตอยู่ใกล้ๆ
อิฟลูเอนเซอร์คนนี้ถามไถ่เรื่อราวชีวิตส่วนตัวก็ได้ความว่า
คุณหลินแต่งงานมีลูกตั้งแต่อายุ 18 ปี ลูกคนโตของเธอปัจจุบันอายุ10 ขวบ น้องเป็นโรคเกี่ยวกับหัวใจตั้งแต่เกิด หัวใจน้องอยู่ที่หน้าอกด้านขวาไม่เหมือนคนทั่วไป
น้องเข้ารับการผ่าตัดรักษามาแล้วสองครั้ง ตอนนี้อาการดีขึ้นแล้ว เล็บกลับมาเป็นสีปกติจากเคยมีสีคล้ำ หลังตรุษจีนนี้ก็จะเข้ารับการผ่าตัดอีกครั้งที่ปักกิ่ง (ปัจจุบันโรคนี้อยู่ในบัญชีประกันสุขภาพถ้วนหน้า รัฐดูแล 90% ของค่าผ่าตัดรักษา ที่เหลือผู้ป่วยจ่ายเอง)
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากน้องเกิดมาก็เป็นโรคที่มีค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาสูง(ในขณะนั้น) คุณพ่อน้องทนแรงกดดันไม่ไหว กระโดดน้ำ”ค่าตัวตุย”ไปต่อหน้าต่อตาน้องตอนที่น้องมีอายุได้เพียง 4 ขวบ ปัจจุบันก็ยังไม่เจอศพพ่อของน้อง
.
ต่อมาคุณหลินแต่งงานใหม่ ตอนแรกๆก็ดีแต่พอคุณหลินรับลูกชายคนโตมาอยู่ด้วย ครอบครัวสามีรังเกียจลูกที่ป่วยของเธอ เธออึดอัดรู้สึกถูกกดดันจึงแยกกับสามี ออกมาอยู่กับลูกๆทั้งสองเพียงลำพัง
(เดิมที คุณหลินแม่เลี้ยงเดี่ยวลูกสองผู้นี้เคยมีอาชีพเป็นคนบังคับทาวเวอร์เครนในไซต์ก่อสร้าง(อาชีพนี้รายรับไม่น้อยนะ)
แต่เข้าใจว่าตอนนี้เธอไม่สามารถกลับไปทำอาชีพเดิมได้เพราะไม่มีใครดูแลลูกๆ จึงหันมายึดอาชีพขายของกินข้างถนนที่สามารถดูแลลูกๆได้ตลอดเวลาอย่างที่เห็น)
.
ในระหว่างการสนทนา คุณหลินแม่เลี้ยงเดี่ยวลูกสองที่ผ่านเรื่องร้ายๆมา ปัจจุบันก็กำลังเผชิญกับความยากลำบาก
แต่ผู้หญิงคนนี้ยังคงมีสีหน้ายิ้มแย้ม มีอารมณ์ขันตลอดการสนทนา(จนกระทั่งในช่วงสุดท้ายเธอถึงห้องไร้ออกมา) มีหยุดฝืนตัวเองไม่ให้ร้องไห้บ้างเป็นระยะ แต่โดยรวมแล้วก็ไม่มีอาการท้อถอย เหนื่อยล้า หมดอาลัยให้เห็นเลย
เธอบอกว่าอาการด้านลบพวกนี้เป็นอาการที่ต้องเก็บเอาไว้กับตัวเอง เป็นไปไม่ได้ที่จะเศร้าเสียใจได้ทุกวัน ลูกยังต้องเข้ารับการผ่าตัดอีก จะเหนื่อยแค่ไหนก็ต้องทน ต้องแบกรับเอาไว้ ฯลฯ
….. คุณหลินบอกว่า วัยสาวของเธอให้ลูกๆไปหมดแล้ว
.
หลังการสนทนา อินฟลูเอนเซอร์คนนี้ก็ได้มอบภาพที่เค้าวาดให้คุณหลิน และโอนเงินให้อีก 50,000 หยวน หรือราวๆ 2.3 แสนบาทเพื่อให้เธอไว้เป็นค่าผ่าตัดรักษาลูกคนโต(เธอจึงร้องไห้) โดยบอกว่าเค้าอยากมีส่วนร่วมในการรักษาเด็กคนนี้ แล้วหันไปอวยพรลูกคนโตของเธอให้มีสุขภาพแข็งแรง พร้อมกำชับน้องว่าเมื่อเติบโตแล้วต้องปกป้องดูแลคุณแม่ด้วย
นอกจากนี้ยังมอบผลิตภัณฑ์ดูแลผิวชุดใหญ่ของโอเลย์ให้คุณหลินไว้ใช้อีกด้วย (ระบุยี่ห้อให้เลยเพราะรู้สึก(ไปเอง)ว่าเค้าร่วมเป็นสปอนเซอร์หรืออย่างน้อยๆก็ต้องมีส่วนสนับสนุนเงินจำนวนมากที่อิฟลูเอนเซอร์คนนี้มอบให้แก่คุณหลิน)
….. หลังเรื่องของคุณหลินแม่เลี้ยงเดี่ยวลูกสองเป็นที่สนใจ ก็มีอินฟลูเอนเซอร์รายอื่นเข้าไปทำคอนเทนต์ที่ร้านของเธอ ช่วยขายของ และ มอบเงินให้เธอไว้ใช้จ่าย
.
สำหรับซิริอุส คนธรรมดาๆตัวเล็กๆที่ไม่ได้มีพลังอำนาจพิเศษอย่างอาหวยหลินเนี่ยแหละ ที่เรียกได้อย่างเต็มปากว่าเป็นพวกยอดมนุษย์ superhero ….. คารวะครับ
ซิริอุส เป็นชื่อของดวงดาว