ชีวิตของเราก็เหมือนเศษไม้ลอยอยู่กลางแม่น้ำ ตอนแรกๆก็ดูเนื้อไม้แข็งๆดี ลอยมาเรื่อยๆ ยังไม่ถึงฝั่ง และไม่เกยสิ่งโสโครก ก็ลอยตุ๊บป่องๆ ต่อไป แต่เศษไม้นั้น ชักจะผุ ยิ่งนานยิ่งผุมากขึ้น จนในที่สุด มันก็คงจมหายไป เอามาเปรียบเทียบกับตัวเอง เมื่อลอยไปลอยมา ก็ลอยไปอยู่เชียงใหม่อีกแล้ว ครั้งนี้ คิดว่าจะกลับในช่วงปลายเดือน เพื่อที่จะได้ไปร่วมกับเพื่อนๆ ในงานวันคืนสู่เหย้า ของนิสิตเก่าเกษตร วันที่ ๒ กุมภาพันธ์นี้
ในการขับรถมาเชียงใหม่ครั้งนี้ ก็เกือบพบอุบัติเหตุ ๒-๓ ครั้ง เพราะเหลือบไปดูเลขกิโลเมตร เพื่อคุมความเร็ว ขณะที่ข้างหน้ามีรถบรรทุกที่วิ่งช้ามาก แล่นเข้าเลนนอกเพื่อแซงรถบรรทุกที่วิ่งช้ากว่าอีกคัน เกือบไม่เห็น ยังดีที่ คนนั่งข้างๆตะโกนเตือนขึ้นมา นับว่าเคราะห์ยังดีอยู่ เส้นทางไปต่างจังหวัด ไม่ได้ว่างโดยราบรื่นเสมอไป บางครั้งมีรถบรรทุกที่วิ่งช้าๆ แซงกันเอง โดยไม่สนใจรถคันหลังที่ตามมา ถ้าตาไม่จ้องไปข้างหน้าตลอดเวลา มีหวังพลาดสักวันหนึ่ง
ก่อนที่จะเริ่มออกเดินทาง ได้นอนเล่น ตากพัดลมในอากาศเย็นที่บ้านกรุงเทพฯ ทำให้หวัดที่เคยเป็นกลับมาซ้ำเติม แล้วยังต้องมาสัมผัสกับความหนาว ทั้งที่ยังเป็นหวัดอยู่ อุณหภูมิขณะนี้ ตอนเช้ามืด ภายในอาคารประมาณ ๒๐ องศา ภายนอก ๑๗ องศา แต่เมื่อแดดออก อากาศอุ่นขึ้น ก็กำลังสบาย การเป็นหวัดครั้งนี้ ไม่หนักมาก มีรุ่นน้อง แนะนำมาว่า ให้กินวิตามินซี ๑,๐๐๐ มิลลิกรัม เช้าเย็น และ BIO ZINC อีกวันละเม็ด ลองทำดู รู้สึกดีกว่าเมื่อก่อน คิดว่าจะกินไปเรื่อยๆเหมือนกับวิตามินชนิดอื่น ขณะนี้ หายหวัดเรียบร้อยแล้ว
ช่วงที่ทำให้ อุ่นหน่อยในขณะที่อยู่ในอากาศเย็น คืออาบน้ำอุ่น หรือยืนใกล้ๆเตาไฟที่ใช้ประกอบอาหาร สำหรับน้ำอุ่น จะรู้สึกหนาวทันทีเมื่อปิดน้ำ ต้องเตรียมเสื้อผ้าที่จะใส่ไปไว้ใกล้ๆ พอเช็ดตัวแห้ง ก็ใส่เสื้อผ้าทันที ไม่สามารถคุ้มกันหนาวได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็คงดีกว่าล่อนจ้อน ให้ขนลุกเล่น สำหรับน้ำอุ่นในสมัยเด็กๆ ก็คือเอากาต้มน้ำบนเตาไฟ แล้วไปผสมน้ำเย็นในกระป๋องเพื่ออาบ สำหรับเตาไฟนั้น เมื่อไปยืนใกล้ๆก็รำลึกถึงความหลังสมัยเด็กๆ ที่ชอบยืนผิงเตาไฟ ตอนอากาศหนาวๆ แล้วโยนหัวมันเทศเข้าใต้เตา รอมันสุก เอามาปอกเปลือกไหม้ๆออก ข้างในนิ่ม อร่อย รสหวานปะแล่มๆ นอกจากมันเทศแล้ว เม็ดทุเรียนก็เคยเผากิน อร่อยดี ที่บ้านสมัยเด็กๆ มักจะทำขนมกินเอง เช่น มันเทศต้มน้ำตาล กล้วยบวชชี มันแกงบวช ต้มถั่วเชียว ขนมครก และอื่นๆอีกสารพัด รู้สึกสนุก เมื่อผู้ใหญ่ขนเตาออกมากลางแจ้ง และเตรียมการที่จะทำขนม วันเหล่านั้น เป็นวันที่วิเศษสำหรับผม
ชีวิตชาวไทยแต่ก่อนนี้ นอกจากอาหารพื้นๆ และความสนุกกับการลิ้มรสแล้ว ยังผูกพันกับเกมการเล่นเชิงพนัน อาจจะเรียกพวกเราว่า born gambling ก็ได้ เริ่มต้นตั้งแต่เด็กๆ เคยเล่นเป่ากบ เอายางหนังสติ๊กเป็นเดิมพัน เล่นลูกหิน ปั่นแปะ ที่เอาเหรียญบาท( ๕ บาทหรือ ๑๐ บาท) มาปั่นให้หมุนติ้วแล้วเอาฝ่ามือปิดครอบไว้ ให้ทายว่า หัวหรือก้อย ถ้า ๒ เหรียญ ก็มี กลางคือออกทั้งก้อยและหัวพร้อมกัน ต่อจากนั้น ก็มีเกมการแข่งขันที่มีเดิมพัน ลอตเตอรี่ ทายเบอร์แบงค์ ชนไก่ ปลากัด มวย ฯลฯ พอดีมีข่าวว่า รัฐบาลจะให้มี คาสิโน ก็นับเป็นข่าวดีสำหรับนักพนันท้องถิ่นทั่วๆไป เข้าใจว่า เมื่อกฎหมายอนุญาตให้เปิดคาสิโน ก็คงยกเลิกกฎหมายที่ห้ามเล่นการพนัน หรือไม่เช่นนั้น ก็เป็นการไม่ยุติธรรมกับชาวบ้านของไทยเรา ถ้าเล่นการพนันได้ ชาวบ้าน คงจะเฮฮาไม่เป็นอันทำมาหากิน คงมีบ่อนการพนันท้องถิ่นเกิดขึ้นหลายแห่ง
ตามที่ได้เคยคิดวิเคราะห์เกี่ยวกับคาสิโนที่สหรัฐอเมริกา มีความรู้สึกว่า แรกเริ่ม เขาจัดให้มีคาสิโนทั่วรัฐเนวาดา เพราะที่นั่นเป็นทะเลทราย แห้งแล้ง เลยส่งเสริมให้มีคาสิโนในรัฐนี้ (ตอนนี้ทราบว่ามีปลูกต้นไม้และที่อยู่อาศัยกว้างขวางขึ้น) นอกจากเมืองลาสเวกัส และรีโน ซึ่งเป็นเมืองคาสิโนแล้ว ตามปั๊มน้ำมันริมทาง ก็ยังสามารถตั้ง slot machine ให้รถที่หยุดเติมน้ำมัน แวะไปเล่นสักพักได้ สำหรับรัฐอื่น เพิ่งทราบว่า มี คาสิโนที่ San Diago มาไม่นานนี้ ถามเพื่อนที่อยู่ตรงนั้น ทราบเหตุผลว่าเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของอินเดียนแดง คงจะส่งเสริมให้อินเดียนแดงมีงาน หรือทำธุรกิจเพิ่มขึ้น มีความคิดว่า ที่อเมริกา จัดให้มีธุรกิจแต่ละรัฐไม่เหมือนกัน เช่น California เป็นแหล่งผลิตอาหารเลี้ยงประเทศ มันฝรั่ง อยู่ที่ Idaho ข้าวโพด-ถั่วเหลืองแถว Illinois และ Iowa ข้าวปลูกที่รัฐทางใต้ ฝ้ายในพื้นที่แห้งแล้ง ยาสูบที่ Virginia และพืชน้ำมันในพื้นที่ทางเหนือ สำหรับรถยนต์ ทราบข่าวว่า ผลิตแถว Detroit Michigan เครื่องบิน Boeing อยู่ที่รัฐ Washington เหตุนี้ เนวาดาซึ่งเป็นทะเลทรายจึงเป็นรัฐที่มีคาสิโน ที่สรุปมานี้ ไม่มีเอกสารอะไรอ้างอิง เป็นข้อคิดของผมอย่างไม่เป็นทางการ
สำหรับคาสิโนที่ Genting Highland มาเลเซีย นั้น ทราบข่าวว่า ทางคาสิโนรับหน้าที่จากรัฐบาลให้ดูแลอนุรักษ์พื้นที่ปลูกต้นไม้ หรือป่ารอบๆ บนเกนติ้งนั้น นอกจาก คาสิโนแล้ว ยังมีแหล่งบันเทิงอีกมากมาย นักท่องเที่ยวอยู่กันได้ดึกดื่น ในช่วงสมัยที่ยังรับราชการอยู่ มีครั้งหนึ่ง ที่เคยไปติดต่อเกี่ยวกับปาล์มน้ำมันที่ประเทศนั้น ได้ขึ้นไปเที่ยวพร้อมคนไทยหลายคน มีคนไทยคนหนึ่ง เขาเคยเล่นได้เงินกำไรมามาก จึงตั้งใจเต็มที่ๆจะ ไปเล่นอีก แล้วก็ลงทุนเล่นจนดึกมาก แต่ครั้งนี้ เขาแพ้ เสียเงินไปเยอะ ตื่นเช้ามา ช่วงก่อนรับประทานอาหารเช้า จึงขอแก้ตัว ไปเสี่ยงโชคอีกสักครั้ง ผลที่ได้ในครั้งนี้ คือกำไรมากมหาศาล เมื่อกินข้าวเช้าเสร็จ คิดว่ากำลังมีโชค กลับไปใหม่ ทุ่มจนหมดตัว แต่แพ้ เสียเงินหมด และหมดเวลาเพราะกำลังจะกลับ จึงวิเคราะห์ว่า คาสิโนทำเงินได้กำไรมหาศาล เพราะคนที่เล่นได้ คิดว่าตัวเองมือดี ทุกคนต้องกลับไปเล่นอีก และคนที่เคยเล่นเสีย ก็อยากแก้ตัว จนในที่สุดแล้ว ต้องเสียเงินกลับบ้านแทบทุกคน ที่เกนติ้งนี้ พอตกกลางคืน ถึงสายๆ อากาศจะหนาวเย็น เพราะเป็นที่สูง ห่างทะเล และใกลจากความจอแจของเมือง อากาศที่เย็นก็กำลังสบาย สำหรับออกไปเดินเล่น
ที่เชียงใหม่ มีภูเขาสูงๆแบบเกนติ้ง แต่ยังไม่ทันมีใครอนุรักษ์ หลายแห่งกลายเป็น resorts, แปลงเพาะชำ, แปลงไม้ดอก, หรือสวนผลไม้ เวลาฝนตกหนักๆลงมา ไม่มีป่าต้นน้ำลำธารที่ต้นไม้ขึ้นรกกั้นทางน้ำให้ไหลช้าๆ ฝนจึงไหลแรงและเร็วมาท่วมเมือง ทำให้คนเมืองต้องเสียงบประมาณของตัวเองแต่ละรายจำนวนมาก ความฝันของผมคือรีบแก้ปัญหาเรื่องน้ำท่วมเมืองเชียงใหม่ โดยระดมความคิดจากวิศวกร นักวิชาการว่าจะทำอะไรได้บ้าง ก่อนที่จะเสียหายอีกครั้ง น่าจะมีหนทางป้องกันได้ ก่อนที่ฝนจะมาอีก แต่ตอนนี้ เชียงใหม่กำลังหนาวเย็นกำลังพอดี พยายามทำใจสัมผัสอากาศให้สงบก่อน กว่าฝนหนักจะมาอีกรอบหนึ่ง
บู๊ คนเคยหนุ่ม
เชียงใหม่ ๒๖ มกราคม ๒๕๖๘